สะพานข้ามแม่น้ำแควเป็นสะพานที่สร้างขึ้นมาสมัยสงครามโลกครั้งที่ โดยมีกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์สัมพันธมิตรต่างๆ และ เชลยศึกมากมายจำนวน 61,700 คน มาก่อสร้างทางรถไฟสายนี้ขึ้น จะเป็นเส้นทางสำคัญของเส้น ทางรถไฟสายมรณะ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า เส้นทางรถไฟจะต้องข้ามแม่น้ำแคว จึงจำเป็นต้องสร้างสะพานขึ้นมา การสร้างรถไฟสายนี้ขึ้นมาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งสงครามที่มีอยู่และโรคภัยที่หนีไม่พ้น ยังเจอการขาดอาหารเข้ามาอีก สัมพันธมิตร และเชลยศึกต้องเสียชีวิตไปจำนวนมากในระหว่างการสร้างสะพานแห่งนี้

ผมมาจอดรถตรงข้ามสถานีรถไฟครับจะมีลานจอดรถกว้างให้จอดอยู่ริมน้ำครับ จะมีคนมานั่งเล่นตรงริมน้ำกันเยอะ บรรยากาศดีมากเลย

ข้างๆจะมีลานให้นั่งเล่นเหมือนเป็นลานเหล้าและอาหารให้บริการแต่น่าจะเปิดตอนกลางคืนครับเป็นเหมือนตลาดกลางคืน ส่วนตอนกลางวันก็มีของประเภทของฝาก หินมงคลต่างๆมากมายครับ

เมื่อเดินมาสุดทางตรงตลาดขายของทั่วไปจะเจอสะพานข้ามแม่น้ำแควมีบันไดสามารถขึ้นไปชมบนสะพานได้

สมัยก่อน ด้วยความเร่งรีบการสร้างสะพานแม่น้ำแควใช้เวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น ถือว่าเร็วมากครับ การสร้างจะนำเหล็กมลายูมาประกอบกันเป็นชิ้น ช่วงกลางจะทำเป็นสะพานเหล็ก หัวสะพานและโครงจะเป็นไม้ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2486 ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2487 แต่ไม่นานได้ถูกทิ้งระเบิดจนสะพานหักกลาง

รัฐบาลได้มีการซ่อมแซมใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ ปัจจุบัน และได้ยกย่องให้เป็น สัญลักษณ์แห่งสันติภาพ

บริเวณโดยรอบสะพานข้ามแม่น้ำแควซ้ายขวา ได้รับปัญหาทัศนียภาพเรื่อยมาทั้งการสร้างแพอาหารที่ล้ำไปกว่าครึ่งของแม่น้ำแคว การสร้างอาคาคารปฏิบัติธรรม 3 ชั้น ของมูลนิธิกวงอิมสุนทรธรรม โดยได้รับการต่อต้านจากชาวเมืองกาญจนบุรี หน่วยงาน สภาต่าง ๆ ของจังหวัดโดยตลอด

เมื่ออยู่กลางสะพานจะเห็นแม่น้ำแควได้ 2 ฝั่ง ชาวบ้านใช้แม่น้ำนี้ดำรงชีพอยู่ในปัจจุบันอย่างเรียบง่ายดูแล้วสบายตามากครับ สะพานข้ามแม่น้ำแควยังใช้งานได้อยู่นะครับมีรถไฟวิ่งไปมาทุกวัน

สะพานข้ามแม่น้ำแควยังใช้งานได้อยู่นะครับมีรถไฟวิ่งไปมาทุกวัน สะพานนี้สามารถนั่งไปชมสถานที่ที่เรียกว่า ทางรถไฟสายมรณะ ได้ด้วยครับ

สพานข้ามแม่น้ำแควเป็นอีกสถานที่หลายๆคนไม่เคยไปต้องลองไปดูครับบรรยากาศดี น่าถ่ายรูปสวยๆและที่สำคัญ ใกล้ กรุงเทพด้วย ขับรถจากกรุงเทพประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นและที่พักราคาถูกมากอีกด้วย